ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางป้องกันที่ดี เพราะไม่ต้องไปผจญกับคนหมู่มากในที่สาธารณะ เช่น การเดินทางที่เบียดเสียดบนรถไฟฟ้า สถานที่ค้าขาย การสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ระหว่างการเดินทางไปยังที่ทำงาน
แม้ว่าการทำงานที่บ้านที่จะมีความปลอดภัย แต่หนึ่งในปัญหาของบางออฟฟิศก็คือการขาดเครื่องไม้เครื่องมือและตัวช่วยที่จะทำให้งานลื่นไหลไปต่อได้
Marketeer พาดูข้อมูลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ที่รวบรวม 5 นวัตกรรม แอปพลิเคชันที่เป็นตัวช่วยในการทำงานที่บ้านที่บรรดาออฟฟิศควรใช้
หมดทุกปัญหาการตอกบัตรด้วย “วันดี : OneDee”
เวลาการเข้างานเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญของการทำงานในออฟฟิศ และเราก็มักจะเห็นอย่างชินตาทุกเช้ากับกิจวัตรการต่อแถวเพื่อรอตอกบัตร หรือสแกนนิ้วเพื่อบันทึกเวลาเข้าออก
OneDee จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยบรรเทาให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป สำหรับนวัตกรรมดังกล่าวเป็นระบบลงเวลาทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้ Beacon, Wi-Fi, GPS ในการยืนยันตำแหน่งพนักงาน เมื่อพนักงานลงเวลาแล้วจะสามารถตรวจสอบออนไลน์ได้ทันที ซึ่งช่วยลดงบประมาณและเวลาในการติดตั้งและทดแทนเครื่องตอกบัตรแบบเดิม
เมื่อข้อมูลพนักงานถูกบันทึกลงในระบบแล้ว ระบบ OneDee จะสามารถนำข้อมูลไปประมวลผลด้าน HR ได้ทันที
อยู่ที่ไหนก็จัดประชุมและสัมมนาได้แค่ใช้ “LIVELOOM”
LIVELOOM คือแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ที่เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้ผลิต หรือเจ้าของคอนเทนต์วิดีโอนำมาเผยแพร่เพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบ Pay-Per-View (รายได้ตามจำนวนครั้งที่คนกดดู) หรือการกุศล
โดยยังเป็นช่องทางทางเลือกใหม่ในการรับชมคอนเทนต์วิดีโอได้ทั้งแบบ LIVE Stream (รับชมแบบถ่ายทอดสด) หรือรับชมแบบย้อนหลังและใช้เทคโนโลยีทางด้าน Video Solution ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าแพลตฟอร์มระดับโลกมาใช้ในการพัฒนาระบบทำให้สามารถรับชมวิดีโอได้อย่างมีคุณภาพ
โดยเฉพาะในการนำมาใช้ในการประชุมกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ การจัดสัมมนาให้ความรู้และการแถลงข่าว
นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ช่องทางไลฟ์ลูมในการเผยแพร่นโยบายสำคัญที่พนักงานทุกคนต้องรู้ทั้งในรูปแบบรับชมทันที และรับชมย้อนหลังได้อีกด้วย
“Skootar” เชื่อมโยงทุกงานเอกสารทั่วกรุงเทพฯ
“Skootar” สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่เป็นหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนโดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศจะต้องนึกถึง สำหรับใครก็ตามที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่บ้านแล้วจำเป็นต้องส่งเอกสารให้ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน
เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์เรียกแมสเซนเจอร์มารับของ ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะมีเจ้าหน้าที่เพียงพอหรือไม่ เพราะปัจจุบันสกู๊ตต้าร์มีแมสเซนเจอร์กว่าครึ่งพันให้บริการอยู่ทั่วกรุงเทพฯ
ข้อดีของสกู๊ตต้าร์ที่น่าใช้อีกก็คือ ระบบสามารถตรวจสอบได้ว่าเอกสารส่งถึงมือผู้รับหรือไม่ สามารถออกใบเสร็จรับเงินเพื่อเบิกกับออฟฟิศได้ แมสเซนเจอร์มีการกลั่นกรองประวัติจากการให้คะแนนหลังการส่งของทุกครั้ง
ส่วนค่าบริการก็เริ่มต้น 70 บาท คิดเพิ่มกิโลเมตรละ 10 บาท และยังสามารถสั่งงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สั่งงานหนึ่งครั้งสามารถส่งได้หลายที่อีกด้วย
บัญชีไม่สะดุดแม้หยุดออฟฟิศ ด้วย FlowAccount
แพลตฟอร์ม FlowAccount ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของธุรกิจ และพนักงานบัญชีทำงานได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา สามารถใช้งานบนแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน โดยระบบสามารถช่วยได้ทั้งการเปิดใบวางบิล เปิดใบเสนอราคา และทำบัญชีเบื้องต้น เช่น เปิดใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ดูยอดขายของแต่ละเดือน บริหารลูกค้า บริหารสินค้าที่ใช้บ่อย และสามารถส่งหรือแชร์เอกสารได้ผ่านรูปภาพ Email, PDF, Link, และ LINE ได้
Daywork ตัวช่วยสร้างรายได้เสริมและงานพาร์ตไทม์
หลายออฟฟิศที่มีนโยบาย Work From Home นั้น มีการปรับลดเงินตามไปด้วย เว็บไซต์ Daywork เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการหารายได้เสริม รวมทั้งบริการจัดหาคนทำงาน/พนักงาน พาร์ตไทม์ให้กับบริษัท ห้างร้าน รวมถึงออแกไนซ์ต่างๆ ที่ต้องการกำลังคนเข้าไปช่วยงาน โดยเน้นไปที่รูปแบบการทำงานพาร์ตไทม์
สำหรับผู้ที่ต้องการฝาก หาพนักงานกับ Daywork เว็บไซต์จะให้บริการจัดหาคนแบบ One Stop Service ตั้งแต่จัดหาคน คัดกรองเบื้องต้น เทรนงาน ตรวจสอบการทำงาน ไปจนถึงขั้นตอนการชำระเงินให้กับพนักงานแทนลูกค้า
นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยหางานพาร์ตไทม์ให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังปิดภาคเรียนหรือจำเป็นต้องเรียนผ่านออนไลน์ ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างรายได้เสริมด้วย
ขอบคุณเนื้อหาข่าวและภาพจาก :Marketeeronline.co
test2
test